ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการลาวเกี่ยวกับ RCEP

ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) ซึ่งมีผลบังคับใช้
เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2565 จะเป็นความตกลงสำคัญในการส่งเสริมการค้าเสรีและการลงทุน ภายในกลุ่มอาเซียน รวมถึง สปป. ลาวด้วย

นายอุเดด สุวันนะวง ประธานสภาการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว กล่าวว่า สปป. ลาวจะได้รับประโยชน์จากข้อตกลง
การค้าดังกล่าว โดยจะสามารถดึงดูดการลงทุนจากประเทศอื่นได้มากขึ้นและจะช่วยให้ สปป. ลาว เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่
อุปทานในภูมิภาคมากขึ้น รวมทั้งยังสามารถส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมไปยังประเทศต่าง ๆ ได้ ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำว่า
การสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงเงินทุน และช่วยปรับปรุงปริมาณและ
คุณภาพของสินค้าเพื่อกระตุ้นการส่งออก นอกจากนี้ การเปิดโครงการรถไฟลาว-จีน จะทำให้ สปป. ลาวมีบทบาทที่สำคัญ
มากยิ่งขึ้นในการรวมกลุ่มความร่วมมือในระดับภูมิภาค เพื่ออำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าระหว่างอาเซียนกับจีน
และประเทศอื่น ๆ ทั้งนี้ สปป. ลาวมีศักยภาพด้านเกษตรกรรมเพื่อส่งออก โดยเฉพาะส่งออกไปตลาดจีน โดยเน้นย้ำว่า 
ทุกภาคส่วนต้องดึงศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา การส่งออกสินค้าเกษตรของ สปป. ลาว ไปจีนมีมูลค่า 905 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 82.3
ของแผนสินค้าส่งออกหลัก ประกอบด้วย กล้วย ยางพารา น้ำตาล และแตงโม

นายบุนเลิด เหลืองประเสิด รองประธานสภาการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว กล่าวว่า RCEP มีความสำคัญอย่างมาก
ต่อการส่งเสริมการค้าเสรีและการลงทุนในภูมิภาค รวมทั้งสร้างงานให้ประชาชน และยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของเส้นทาง
รถไฟลาว-จีน ว่า ไม่เพียงแต่สนับสนุนการค้า การท่องเที่ยวระหว่างลาวกับจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยส่งเสริมความร่วมมือ
ทางเศรษฐกิจภายในภูมิภาคโดยรวมอีกด้วย

RCEP เป็นข้อตกลงการค้าที่เสนอโดยอาเซียนเพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศสมาชิกกับพันธมิตรข้อตกลงการค้าเสรี
อาทิ ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้ โดยมีจุดมุ่งประสงค์เพื่อขจัดอุปสรรคทางการค้า และส่งเสริมโอกาส
ในการลงทุนเพื่อช่วยให้ประเทศเศรษฐกิจใหม่สามารถตามประเทศอื่น ๆ ในโลกได้

ที่มา: นสพ. Vientiane Times วันที่ 5 ม.ค. 2565

01/14/2022



กลับหน้าหลัก