42 ปีแห่งการพัฒนาประเทศ
นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี ได้รายงานต่อที่ประชุมสภาแห่งชาติ ในระหว่างวันที่ 17 ตุลาคม – 17 พฤศจิกายน 2560 นี้ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ 6.83 (หลุดจากเป้าที่ตั้งไว้ ร้อยละ 0.17) ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP เฉลี่ยต่อคนต่อหัวต่อปีคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายที่2,472 ดอลลาร์สหรัฐ ด้านการเข้าถึงไฟฟ้าพบว่า ร้อยละ 87 ของครัวเรือนในประเทศสามารถเข้าถึงไฟฟ้าได้ คิดเป็นร้อยละ 94.18 ของจำนวนครัวเรือนในประเทศ.
ส่วนด้านการเงินและงบประมาณ รัฐบาลได้ดำเนินการปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเครื่องมือที่ทันสมัยมาใช้ในการจัดเก็บภาษี ค่าธรรมเนียมต่างๆ ผ่านระบบธนาคาร ซึ่งจะช่วยสร้างวินัยทางด้านการเงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลคาดการณ์งบประมาณรายรับ อยู่ที่ 23,489 พันล้านกีบ คิดเป็นร้อยละ 98.1งบประมาณรายจ่าย อยู่ที่ 31,508 พันล้านกีบ คิดเป็นร้อยละ 97.24อย่างไรก็ดีรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและส่งเสริมให้มีการประหยัด โดยเฉพาะนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ประกาศให้รัฐมนตรีและพนักงานรัฐระดับสูงยกเลิกการใช้รถหรูประจำตำแหน่ง หันมาใช้รถราคาปานกลางเพื่อความประหยัดและเป็นตัวอย่างที่ดีของประชาชน ซึ่งนโยบายดังกล่าวทำให้รัฐบาลสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้อย่างเป็นรูปธรรม.
ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รัฐบาลได้ยกระดับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ โดยเฉพาะการสร้างถนนที่เชื่อมโยงไปยังแขวงต่างๆและเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจุบันทั้งประเทศมีความยาวถนนทั้งหมด 58,885.86 กิโลเมตร ซึ่งยาวกว่าปีที่ผ่านมา 2,553.73 กิโลเมตร ส่วนด้านการขนส่งทางอากาศนั้น ปัจจุบันมีสนามบินนานาชาติ 4 แห่ง สนามบินภายในประเทศ 9 แห่ง รวมทั้งหมด 13 แห่ง ขณะที่เป้าหมายการพัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้วางเป้าหมายไว้ 6 เส้นทาง รวมทั้งสะพานข้ามแม่น้ำโขง 7 แห่ง.
ด้านการแก้ปัญหาความยากจน นายสุพัน แก้วมีไซ รัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุน ชี้แจงว่า เมื่อเดือนมิถุนายน 2560 รัฐบาลได้ประเมินผลความยากจนของประชาชน โดยนำดำรัสที่ 309/นย มาใช้ในการประเมินผลดังกล่าวพบว่า สามารถทำให้ครัวเรือนที่ยากจนลดลง 6,546 ครัวเรือน จากทั้งหมด 75,318 ครัวเรือน ขณะเดียวกันสามารถขจัดความยากจนได้ 83 หมู่บ้าน หรือคิดเป็นร้อยละ 46.63 อย่างไรก็ดี เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับแผนการประจำปี 2560พบว่ายังไม่สามารถบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 95 หมู่บ้าน โดยจะเริ่มดำเนินการให้แล้วเสร็จในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2560.
การคาดการณ์เป้าหมายปี 2561 รัฐบาลคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่ให้ต่ำกว่าร้อยละ 7 คิดเป็น 149,471 ล้านกีบ โดยตั้งเป้ารายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อคนอยู่ที่ 2,536 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี / รายได้มวลรวมประชาชาติ (GNI) อยู่ที่ 2,004 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ภาคกสิกรรมคาดวว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 หรือร้อยละ 15.73 ของ GDP / ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 หรือร้อยละ 30.79 ของ GDP / ภาคบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 หรือร้อยละ 41.83 ของ GDP / การจัดเก็บภาษี - อากร และการนำเข้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 หรือร้อยละ 11.80 ของ GDP / รายจ่ายของรัฐบาลตั้งเป้าที่ 32,809 ล้านกีบ ได้แก่รายจ่ายท้องถิ่น 8,977 ล้านกีบ งบประมาณขาดดุล 7,357 ล้านกีบหรือคิดเป็นร้อยละ 4.92 ของ GDP.
การขจัดความยากจน ในปี 2561 รัฐบาลตั้งเป้าขจัดความยากจนในครัวเรือนให้ได้ 4,833 ครัวเรือน โดยตั้งเป้าให้ครัวเรือนยากจนทั่วประเทศคงเหลือ 66,139 ครัวเรือน หรือคิดเป็นร้อยละ 5.67 ของครัวเรือนทั่วประเทศ นอกจากนี้รัฐบาลตั้งเป้าขจัดความยากจนในหมู่บ้านให้ได้ 220 หมู่บ้าน และให้คงเหลือหมู่บ้านที่ยากจน 2,291 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 15.10 ของหมู่บ้านทั่วประเทศ อีกทั้งได้ตั้งเป้าการขจัดความยากจนในเขตเมืองให้ได้ 2 เมือง จากเมืองทั้งหมดทั่วประเทศ 23 เมือง คิดเป็นร้อยละ 14.18 ของเมืองทั่วประเทศ ด้านการศึกษา รัฐบาลตั้งเป้าเพิ่มอัตราการเข้าเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษา จากร้อยละ 97.6 เป็นร้อยละ 98 / อัตราการไม่เข้าเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ให้ลดลงจากร้อยละ 4.4 ให้อยู่ที่ร้อยละ 4 / อัตราการสำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 81.16 เป็นร้อยละ 84.
ด้านการเจริญเติบโตของเด็ก ตั้งเป้าอัตราส่วนน้ำหนักตามเกณฑ์มาตรฐานของเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ให้ลดลงจากร้อยละ 22 เป็นร้อยละ 21 ของกลุ่มเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีทั่วประเทศ / ส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐานของเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ให้ลดลงจากร้อยละ 34 เป็นร้อยละ 33.2 / อัตราการเสียชีวิตของเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี ให้ลดลงจาก 41 คน คงเหลือ 38 คนต่อเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี 1,000 คน / อัตราการเสียชีวิตของสตรีมีครรภ์ให้ลดลงจาก 179 คน คงเหลือ 175 คนต่อเด็กทารกแรกเกิด 100,000 คน.
ที่มา: หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจการค้า, ฉบับวันที่ 1 ธันวาคม 2560.
รูปภาพ : Ananda Kenchanh
12/12/2017