สปป.ลาวเร่งสร้างเงื่อนไขเพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุนและการดำเนินธุรกิจ

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2560 องค์การตรวจสอบแห่งรัฐและต่อต้านการฉ้อราษฎร์บังหลวงได้จัดพิธีเฉลิมฉลองวันครบรอบการต่อต้านการคอร์รัปชั่นสากล 14 ปี (9 ธันวาคม 2546 – 9 ธันวาคม 2560) รวมทั้งการชี้แจงผลการดำเนินงานในระยะ 5 ปี ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลได้ประเมินมูลค่าความเสียหายจากการคอร์รัปชั่นรวมเป็นมูลค่า 48,000 ล้านกีบ โดยเฉพาะความเสียหายจากการรับสินบนและการใช้ตำแหน่งของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อคอร์รัปชั่น 


ขณะเดียวกันรัฐบาลพยายามสร้างนิติกรรมเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การลงทุนและการดำเนินธุรกิจใน สปป. ลาว โดยเฉพาะร่างคำสั่งนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปรับปรุงระเบียบการดำเนินธุรกิจใน สปป. ลาว และร่างดำรัสว่าด้วยการจัดตั้งและการปฏิบัติงานของคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมการลงทุนขั้นศูนย์กลางและท้องถิ่น 


การประชุมรัฐบาลประจำเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี ได้แนะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำร่างคำสั่งและร่างดำรัสดังกล่าวไปปรับปรุงให้มีเนื้อหาที่สมบูรณ์ตามมติของสมาชิกพรรคเพื่อประกาศใช้โดยเร็ว อีกทั้งรัฐบาลมอบหมายให้สถาบันค้นคว้าเศรษฐกิจแห่งชาติเป็นศูนย์กลางในการประสานงานและรับผิดชอบงานด้านการวิจัยปัญหาเศรษฐกิจให้แก่รัฐบาล และให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องยกระดับภาระหน้าที่ในการดำเนินการวิจัยปัญหาเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี รัฐบาลได้พิจารณาและออกนิติกรรมที่สำคัญหลายฉบับ ได้แก่ การออกดำรัส 24 ฉบับ และการออกแจ้งการ 246 ฉบับ รวมทั้งการพิจารณาข้อเสนอของภาคธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ และการจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนขั้นศูนย์กลาง


นายสีไน เมียงลาวัน รองประธานองค์การตรวจสอบแห่งรัฐและต่อต้านการฉ้อราษฎร์บังหลวง กล่าวว่า ระยะที่ผ่านมาองค์การฯ ได้ติดตามตรวจสอบพฤติกรรมที่เข้าข่ายการฉ้อราษฎร์บังหลวง เช่น การรับสินบน / การใช้ตำแหน่งหน้าที่เกินขอบเขต / การปลอมแปลงเอกสาร และอื่นๆ ซึ่งทำให้รัฐบาลได้รับความเสียหายด้านทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ในปี 2556 เป็นต้นมา สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้มากกว่า 48,000 ล้านกีบ และเรียกค่าเสียหายคืนได้ 33,700 ล้านกีบ คงเหลือ 14,200 ล้านกีบ โดยเฉพาะความเสียหายจากการปฏิบัติงานโครงการและการคอร์รัปชั่น 14,700 ล้านกีบ สามารถเรียกค่าเสียหายคืนได้ 28,900 ล้านกีบ ด้านผู้กระทำผิดได้ดำเนินการอบรม ตักเตือน และดำเนินคดีตามกฎหมายมากกว่า 100 ราย ประกอบด้วย พนักงานรัฐ 86 ราย พนักงานบริษัท 21 ราย อยู่ระหว่างสรุปสำนวนคดีส่งอัยการ 55 ราย อยู่ระหว่างคำสั่งศาล 39 ราย และศาลตัดสินแล้ว 13 ราย 


นายสีไน ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในอนาคตจะเพิ่มการติดตามตรวจสอบองค์กรของรัฐบาลที่มีความเสี่ยงต่อการคอร์รัปชั่นและการฉ้อราษฎร์บังหลวงเพื่อป้องกันและปราบปรามพฤติกรรมฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างเข้มงวด อาทิ การคุ้มครองงบประมาณรายรับ – รายจ่าย / การลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน / การคุ้มครองการใช้ที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ / การดำเนินคดีการให้บริการของรัฐ เป็นต้น 



ที่มา: หนังสือพิมพ์ลาวพัฒนา, ฉบับวันที่ 12 ธันวาคม 2560 
ที่มารูปภาพ: naphavonghotel.com

12/19/2017



กลับหน้าหลัก