Round Table Implementation Meeting 2019

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2562 ดร. สอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุน สปป. ลาว 
นายคำขัน จันทะวีสุก เจ้าแขวงหลวงพระบาง และนาง Sara Sekkenes ผู้ประสานงานองค์การสหประชาชาติประจำ สปป. ลาว 
ได้เป็นประธานร่วมการประชุม Round Table Implementation Meeting 2019 ณ แขวงหลวงพระบาง โดยมีประเทศคู่ร่วมพัฒนา 
องค์กรไม่แสวงผลกำไร และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม 

ดร. สอนไซฯ กล่าวว่า รัฐบาล สปป. ลาวเอาใจใส่ในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาแบบยั่งยืน (SDGs) 
โดยเฉพาะการดำเนินตามเป้าหมาย 18 ของ สปป. ลาวเกี่ยวกับการเก็บกู้ระเบิดตกค้างที่ยังไม่ระเบิด (UXO) เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง
ของการหลุดพ้นจากสถานะประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (LDC) โดยจะมีการประเมินครั้งที่สองในปี 2564 หากผ่านการประเมิน
ก็จะสามารถประกาศหลุดพ้นจากสถานะดังกล่าวได้ในปี 2567 ปัจจุบัน สปป. ลาวสามารถบรรลุได้ 2 ใน 3 เงื่อนไขตามมาตรฐาน
ที่กำหนดไว้ คือ Gross National Income (GNI) Human Assets Index (HAI) แต่ยังไม่สามารถบรรลุมาตรฐาน
 Economic Vulnerability Index (EVI) โดยสาเหตุหลักเนื่องจากรัฐบาลจำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณสำหรับการรับมือกับ
ภัยธรรมชาติและเร่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายให้กลับมาใช้ได้ปกติโดยเร็ว 

นาง Sara กล่าวว่า คู่ร่วมพัฒนาจะต้องเอาใจใส่ในการสนับสนุนและช่วยเหลือหลายด้าน อาทิ การรับมือกับความเสี่ยงใน
การเกิดภัยธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศ การลดการตัดไม้ทำลายป่า การดำเนินการตามเป้าหมาย SDGs 
และการหลุดพ้นจากสถานะ LDC 

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (2559 - 2563) 
และประเด็นที่ สปป. ลาวต้องการจะเน้นในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 (2564 - 2568) ได้แก่ 
การลดความเสี่ยงของการเกิดภัยธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการเจริญเติบโตสีเขียว 
โดยหลายภาคส่วนทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นจำเป็นต้องเพิ่มการประสานงานระหว่างกัน พร้อมทั้งสร้างขีดความสามารถ
และปลูกจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะระบบนิเวศต่าง ๆ และกำหนดมาตรการเพื่อเร่งดำเนินการให้บรรลุ
เป้าหมาย SDGs และการหลุดพ้นจากสถานะ LDC ในปี 2567 

ที่มา: เว็บไซต์ นสพ. เวียงจันทน์ใหม่ วันที่ 27 พ.ย. 2562 
 https://www.vientianemai.net/khao/23009.html นสพ. Vientiane Times วันที่ 27 พ.ย. 2562

12/18/2019



กลับหน้าหลัก