ผลการดำเนินงานด้านแผนการและการลงทุนปี 2563 และแผนการดำเนินงานปี 2564

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2564 ดร. สอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงแผนการและ การลงทุน สปป. ลาว
เป็นประธานการประชุมสรุปผลการดำเนินงานด้านแผนการและการลงทุนปี 2563 และแผนการดำเนินงานปี 2564
โดยมีรองรัฐมนตรีกระทรวงแผนการฯ รองประธานองค์การรัฐเทียบเท่ากระทรวง เจ้าแขวง รองเจ้าแขวง และหัวหน้าแผนก
แผนการและการลงทุนทั่วประเทศเข้าร่วม

ในการประชุมดังกล่าว นายกิแก้ว จันทะบูรี รองรัฐมนตรีกระทรวงแผนการฯ ได้รายงานผลการดำเนินงานด้านแผนการและการลงทุน
ปี 2563 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (2559 -2563) และทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9
(2564 - 2568) โดยการดำเนินงานของรัฐบาลในปี 2563 มุ่งเน้นการปฏิบัติตามมาตรการด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้เสนอต่อสภาแห่งชาติ
เมื่อเดือน มิ.ย. 2563 เช่น 8 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คำสั่งว่าด้วยการประหยัดรายจ่ายภาครัฐ คำสั่งว่าด้วยการเพิ่มมาตรการสกัดกั้น
การระบาด ควบคุม และเตรียมความพร้อมรอบด้านเพื่อป้องกันโรคโควิด 19 ข้อตกลงว่าด้วยการแต่งตั้งคณะเฉพาะกิจรับผิดชอบติดตาม
ผลกระทบและดำเนินนโยบายและมาตรการเพื่อลดผ่อนกระทบจากการแพร่ระบาดของ โรคโควิด 19 ข้อตกลงว่าด้วยการแต่งตั้งคณะ
เฉพาะกิจส่งเสริมการผลิตและบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศ และการควบคุมการนำเข้าสินค้าอุปโภคและบริโภค อย่างไรก็ตาม
เนื่องจากความท้าทายด้านเศรษฐกิจมหภาค ที่สะสมมา เช่น ปัญหาหนี้สินภายในประเทศและต่างประเทศ การขาดดุลการค้า และ
การมีฐานรายได้ที่ไม่แน่นอนส่งผลให้ GDP ปี 2563 ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 3.3 มูลค่า 18,709 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รายได้เฉลี่ย
ต่อหัวคน 2,664 ดอลลาร์สหรัฐ ด้านการลงทุนภาครัฐในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 สามารถชำระเงินให้โครงการรวมมูลค่า
140.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 37.35 ของแผนปรับแก้ และได้เลื่อนชำระแก่โครงการลงทุนภาครัฐ จากปี 2563
เป็นปี 2564 รวมมูลค่า 75.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการจัดเก็บรายได้และการบริหารรายจ่าย หน่วยงานด้านแผนการและการลงทุนได้ยกระดับระบบ ให้ทันสมัย เพิ่มความเข้มงวด
ในการบังคับใช้กฎหมายและระเบียบต่าง ๆ เพื่อป้องกันการรั่วไหลของงบประมาณ และการละเมิดวินัยทางการเงิน อย่างไรก็ตาม
การระบาดของโรคโควิด 19 ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ไม่บรรลุ ตามแผนที่กำหนดไว้ โดยในปี 2563 สปป. ลาวสามารถจัดเก็บรายได้
2,444.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น ร้อยละ 99.54 ของแผน มีรายจ่าย 3,104.80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 86.95 ของแผน
และสามารถ ระดมทุนเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ 368.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 32.26 ของแผน

ในช่วงเดือน ม.ค. – พ.ย. 2563 ปริมาณเงิน M2 เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับร้อยละ 18.30 (แผนกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 20) เงินสำรองระหว่าง
ประเทศครอบคลุมการนำเข้า 4.61 เดือน (สภาแห่งชาติกำหนดให้ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน) อัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ
ในปี 2563 อ่อนค่าร้อยละ 6.23 (สภาแห่งชาติกำหนดไว้ ไม่เกินร้อยละ 5) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย
อยู่ในระดับร้อยละ 5.07 เนื่องจากราคาของหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.53 โดยเฉพาะราคาเนื้อสัตว์
เงินฝากของธนาคารพาณิชย์เดือน พ.ย. 2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.30 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ 63.81
ของ GDP ยอดสินเชื่อคงเหลือของภาคธนาคารจนถึงเดือน พ.ย. 2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.85 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
คิดเป็นร้อยละ 48.95 ของ GDP หนี้เสีย (NPLs) ของธนาคารพาณิชย์เดือน พ.ย. 2563 อยู่ในระดับร้อยละ 3.17 ของมูลค่าสินเชื่อทั้งหมด

สำหรับปี 2564 นับว่าเป็นปีเริ่มต้นของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 (2564 - 2568) โดยเป้าหมายและแนวทาง
ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมยังคงมุ่งเน้นสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม การทำให้เศรษฐกิจ
กลับคืนสู่สภาวะปกติ มีคุณภาพ ยั่งยืน และเป็นไปตามแนวทาง สีเขียว เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากสถานะพัฒนาน้อยที่สุด และก้าวสู่การเป็น
ประเทศที่มีรายได้ปานกลางในปี 2573

ที่มา: นสพ. เวียงจันทน์ใหม่ วันที่ 5 ก.พ. 2564

02/11/2021



กลับหน้าหลัก