กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป. ลาวออกคำสั่งเกี่ยวกับการส่งเสริมการเลี้ยงโคและกระบือเพื่อส่งออกไปจีน
ตามที่ สปป. ลาวได้รับโควตาการส่งออกโคและกระบือจากรัฐบาลจีน 500,000 ตัว เพื่อดำเนินการ ตามแผนการผลิตสินค้าเกษตร
และเลี้ยงสัตว์เพื่อการส่งออก เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2562 สปป. ลาวและจีนได้ออกข้อกำหนดว่าด้วยเงื่อนไขด้านสุขอนามัยเกี่ยวกับ
การกักกันและตรวจสุขภาพสัตว์ใหญ่ที่ส่งออกจาก สปป. ลาว ไปจีน และเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2564 จีนได้ให้การรับรองเขตปลอดโรค
ปากเท้าเปื่อยที่เมืองสิง แขวงหลวงน้ำทา อย่างเป็นทางการ
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2564 กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป. ลาวได้ออกคำสั่งเกี่ยวกับการส่งเสริมการเลี้ยงโคและกระบือเพื่อส่งออก
ไปจีนให้มากขึ้น โดยมอบหมายให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรและผู้ผลิตทราบเกี่ยวกับการเปิดตลาดโคอย่างเป็นทางการ
และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเลี้ยงโคให้ได้ตามเงื่อนไข ในข้อกำหนด เช่น โคต้องมีอายุไม่เกิน 4 ปี น้ำหนัก 350 กิโลกรัมขึ้นไป และปลอดโรค
โดยจะมีการจัดฝึกอบรมให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการที่สนใจเลี้ยงโคและกระบือ รวมทั้งก่อตั้งเครือข่ายสัตวแพทย์ประจำหมู่บ้านทั่วประเทศ
เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนแก่สัตว์และปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนด ทั้งนี้ สปป. ลาวกำลังเผชิญกับความท้าทายในการส่งเสริม
การเลี้ยงโค อันได้แก่ การระบาดของโรคสัตว์ โดยเฉพาะโรคปากเท้าเปื่อย รวมถึงโรคลัมปีสกินในโค 11,000 ตัวใน 126 หมู่บ้าน
ใน 7 แขวงของ สปป. ลาว
ในช่วงวันที่ 28 เม.ย. - 4 พ.ค. 2564 สปป. ลาวส่งโคไปยังจีนแล้ว 2,013 ตัว โดยส่งผ่านด่านชายแดนเมืองสิง แขวงหลวงน้ำทา
ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือราว 360 กม. ซึ่งเป็นโครงการนำร่อง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียม
ส่งออกโคและกระบือชุดต่อไป
ที่มา: นสพ. Vientiane Times วันที่ 30 มิ.ย. 2564 และนสพ. เวียงจันทน์ใหม่ วันที่ 2 ก.ค. 2564
07/09/2021
กลับหน้าหลัก