รัฐบาล สปป. ลาวคาดเศรษฐกิจลาวปี 2564 จะขยายตัวร้อยละ 3

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 ดร. สอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงแผนการและ การลงทุน สปป. ลาว ได้รายงาน
ผลการปฏิบัติตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนงบประมาณแห่งรัฐ แผนการเงินในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564
และแผนงานสำคัญในปลายปี 2564 ต่อที่ประชุมสมัยสามัญครั้งที่ 2 ของสภาแห่งชาติชุดที่ 9 ว่า การระบาดของโรคโควิด 19
ระลอกใหม่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อ สปป. ลาว โดยเฉพาะปัญหาด้านการคลัง การเงิน หนี้สาธารณะ ความเสี่ยง
ต่อภัยธรรมชาติ และโรคระบาดในพืช และสัตว์ตามฤดูกาล ซึ่งล้วนแต่เป็นความท้าทายและแรงกดดันต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมในปี 2564

จากข้อมูล 9 เดือนแรกของปี 2564 กอปรกับปัจจัยแนวโน้มและศักยภาพของ สปป. ลาว คาดว่า GDP ปี 2564 จะขยายตัวที่ร้อยละ 3
(สภาแห่งชาติรับรองร้อยละ 4 ขึ้นไป) มูลค่า 180.24 ล้านล้านกีบ (สภาฯ รับรอง 182.6 ล้านล้านกีบ) รายได้เฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ 2,649
ดอลลาร์สหรัฐ (สภาฯ รับรอง 2,536 ดอลลาร์สหรัฐ) GNI เฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ 2,479 ดอลลาร์สหรัฐ (สภาฯ รับรอง 2,004 ดอลลาร์สหรัฐ)
ประกอบด้วยการขยายตัวของภาคการเกษตรร้อยละ 2.5 คิดเป็นร้อยละ 16.7 ของ GDP ภาคอุตสาหกรรมร้อยละ 4.9 คิดเป็นร้อยละ 33.9 
ภาคบริการร้อยละ 1.2 คิดเป็นร้อยละ 39.1 และรายได้ศุลกากรและภาษี ร้อยละ 2.8 คิดเป็นร้อยละ 10.4 ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจลาวจะยังคง
ได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของภาคการก่อสร้างร้อยละ 8.2 ภาคข่าวสารและการสื่อสารร้อยละ 6.3 ภาคเหมืองแร่ร้อยละ 1.4 การค้าปลีก
ค้าส่ง และการซ่อมพาหนะร้อยละ 1.6 การบริการการเงินและประกันภัย ร้อยละ 3 การรักษาสุขภาพร้อยละ 6.5 และภาคพลังงานไฟฟ้า
ร้อยละ 4.5 เนื่องจากโครงการพลังงานไฟฟ้า ขนาดใหญ่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เกินกว่าแผนที่กำหนดไว้ เช่น เขื่อนไฟฟ้าน้ำเทิน 2
น้ำซัน 3A น้ำซัน 3B น้ำทา 1 และน้ำลีก 1

อย่างไรก็ตาม การระบาดของโรคโควิด 19 ส่งผลให้การขยายตัวของภาคบริการที่พักและร้านอาหารลดลง ที่ติดลบร้อยละ 28.6 เนื่องจาก
ร้านอาหารและโรงแรมหลายแห่งได้ยุติการให้บริการ การขนส่งและคลังสินค้าติดลบ ร้อยละ 0.7 เนื่องจากการระงับบริการขนส่งผู้โดยสาร
ระหว่างแขวงชั่วคราวในไตรมาส 2 และ 3 อย่างไรก็ตาม แม้ว่า จะมีการอนุญาตให้ขนส่งสินค้าได้ตามปกติแต่ยังขาดความคล่องตัว ทั้งนี้ 
คาดว่าการขนส่งผู้โดยสารจะกลับมาขยายตัวดีขึ้นในไตรมาส 4 เนื่องจาก ได้รับอานิสงส์จากการเปิดเดินรถไฟลาว - จีน และภาคอุตสาหกรรม
ตัดเย็บและเครื่องนุ่งห่มขยายตัวเพียงร้อยละ 0.2 เนื่องจากในไตรมาส 2 และ 3 โรงงานหลายแห่งต้องปิดกิจการชั่วคราว จากการระบาด
ของโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ การขยายตัวลดลงดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในภาพรวม

ด้านการเงิน ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประเภท M2 (เงินในมือประชาชน เงินฝากประจำ เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ)
เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.75 (สภาฯ รับรองไม่ให้เกินร้อยละ 20 ต่อปี) อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 3.32 (สภาฯ รับรอง
ร้อยละ 5 - 7) สาเหตุที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น เกิดจากหลายปัจจัย เช่น ราคาน้ำมันดิบ วัตถุดิบ และต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น การอ่อนค่า
ของเงินกีบและเศรษฐกิจ ของประเทศคู่ค้าหลักส่งผลต่อปริมาณสินค้า

หมายเหตุ
อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ = 10,527 กีบ

ที่มา: นสพ. เศรษฐกิจการค้า วันที่ 2 พ.ย. 2564

11/12/2021



กลับหน้าหลัก