โครงการพัฒนาเมืองทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเขตนาเตย

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2565 บริษัท อมตะซิตี้ ลาว จำกัด (Amata City Lao Sole Company Limited) ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการ
พัฒนาเมืองทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเขตนาเตย แขวงหลวงน้ำทา โดยมี นายคำไหล สีปะเสิด เจ้าแขวงหลวงน้ำทา
นางคำจัน วงแสนบูน รองรัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุน สปป. ลาว พร้อมด้วยนายเจษฎา กตเวทิน เอกอัครราชทูต
ณ เวียงจันทน์ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวกับหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ว่า โครงการ
นาเตยฯ ได้รับอนุมัติสัมปทานการพัฒนาที่ดินบนพื้นที่ 410 เฮกตาร์ (2,562.5 ไร่) จากรัฐบาล สปป.ลาว โดยได้ลงนามสัญญาร่วมกัน
ทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว โดยการลงทุนครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญของอมตะ ในการเปิดโครงการพัฒนาพื้นที่ครั้งแรกใน สปป.ลาว โดยระยะแรก
จะพัฒนาพื้นที่ 200 ตารางกิโลเมตร มูลค่าการลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาโครงการให้เป็นต้นแบบของนิคมอุตสาหกรรม
สมัยใหม่ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ประหยัดพลังงานและการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นายสมพาวัน จันทะจักวง เจ้าหน้าที่อาวุโสห้องว่าการปกครองแขวงหลวงน้ำทา กล่าวว่า โครงการดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อ
เปลี่ยนภาพลักษณ์ของแขวงหลวงน้ำทา รวมทั้ง สปป. ลาว โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้บริการนักลงทุนต่างชาติในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ได้แก่ โลจิสติกส์ คลังสินค้า ผลิตภัณฑ์ยาง พลาสติก เครื่องจักร การแปรรูปอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งเคมีภัณฑ์และยา โดยมีจุดที่ตั้ง
ใกล้สถานีรถไฟนาเตย ซึ่งห่างจากชายแดนลาว-จีนประมาณ 20 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าเส้นทางรถไฟลาว-จีนจะมีบทบาทสำคัญในการ
อำนวยความสะดวกด้านการค้าและความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างอาเซียนกับจีนและประเทศอื่น ๆ

นายวิกรมฯ ยังเน้นย้ำว่า อมตะมีแผนจะเชิญบริษัทข้ามชาติและรัฐบาลจากจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไทย โดยให้คำมั่นที่จะหาความร่วมมือ
เพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุน เพื่อช่วยให้ สปป. ลาว กลายเป็นจุดหมาย ปลายทางการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่มีการ
แข่งขันสูง น่าสนใจ และมีความทันสมัย

ในที่ประชุมรัฐบาลลาวปี 2562 เห็นพ้องว่า บริษัทฯ ได้จัดทำการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจอย่างเพียงพอแล้ว และอนุมัติให้ก่อสร้างโครงการ
ดังกล่าว และเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการลงทุน เพิ่มผลิตภาพ และการพัฒนาควบคู่ไปกับทางรถไฟลาว - จีน

ที่มา: นสพ. Vientiane Times วันที่ 19 ม.ค. 2565

01/28/2022



กลับหน้าหลัก