เกาะติดข่าว

ภาคบริการยังมิได้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจลาว

เมื่อวันที่ 19 – 20 ธ.ค. 2562 นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ได้เป็นประธานการประชุมรัฐบาล ครั้งที่ 2 ประจำปี 2562 
ณ หอประชุมแห่งชาติ นครหลวงเวียงจันทน์ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ เข้าร่วม 

รัฐบาล สปป. ลาวคาดการณ์ว่าในปี 2562 ภาคการบริการจะเติบโตประมาณร้อยละ 7 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ของ GDP 
โดยภาคบริการค้าส่งและค้าปลีก และการซ่อมยานพาหนะจะขยายตัวที่ร้อยละ 9.9 คิดเป็นร้อยละ 1.4 ของภาคบริการ 
ภาคอสังหาริมทรัพย์จะขยายตัวร้อยละ 6.7 คิดเป็นร้อยละ 0.4 ของภาคบริการ ภาคการเงินและหลักทรัพย์จะขยายตัว
ร้อยละ 7.7 คิดเป็นร้อยละ 0.2 ของภาคบริการ และโรงแรมและภัตตาคารจะขยายตัวร้อยละ 5.3 คิดเป็น ร้อยละ 0.1 
ของภาคบริการ นอกจากนี้ ในปี 2562 รัฐบาลได้จัดกิจกรรม Visit Laos - China Year 2019 เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและเพิ่มรายได้
ให้แก่ภาคการบริการ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 มีนักท่องเที่ยวมา สปป. ลาวทั้งหมด 3.45 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 76.59 
ของจำนวนที่ตั้งเป้าไว้ที่ 4.5 ล้านคน ในปี 2563 รัฐบาล สปป. ลาว จะพยายามขยายการเติบโตของภาคบริการที่ประมาณร้อยละ 6.9 
หรือร้อยละ 41.47 ของ GDP 

การท่องเที่ยวมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สปป.ลาว ซึ่งเป็นแหล่งเงินตราต่างประเทศ สร้างงาน และรายได้ให้กับประชาชน 
และขจัดความยากจน นับตั้งแต่ สปป. ลาวจัดกิจกรรม Visit Laos Year 2018 จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 จาก 3.8 ล้านคน 
ในปี 2560 เป็น 4.2 ล้านคน ในปี 2561 

ภาคการท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้กว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี 2561 ซึ่งนับเป็นรายได้จากการท่องเที่ยวสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558 
หากเทียบมูลค่าการส่งออก การท่องเที่ยวเป็นสาขาที่สร้างรายได้เป็นอันดับ 3 รองจากสาขาเหมืองแร่ซึ่งมีมูลค่า 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
และการผลิตไฟฟ้าซึ่งมีมูลค่า 1,410 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

อย่างไรก็ตาม สภาการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาวพบว่า ภาคบริการมิได้เป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจลาว เนื่องจากงบประมาณ
ส่งเสริมการท่องเที่ยวมีจำกัด การบริหารจัดการของหน่วยงานด้านการบริการของหน่วยงานรัฐส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นขาดเอกภาพ 
และขาดความร่วมมือในการกำหนดยุทธศาสตร์ร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวน
ปัญหาค่าไฟฟ้าที่สูงเมื่อเทียบกับภาคอุตสาหกรรมและการค้า 

ที่มา: นสพ. Vientiane Times วันที่ 16 ธ.ค. 2562

12/27/2019



กลับหน้าหลัก