เกาะติดข่าว

เพิ่มบทบาทเงินหยวนและเงินกีบให้สามารถใช้เป็นสื่อกลางในการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2563 นายสอนไซ สิดพะไซ ผู้ว่าการธนาคารแห่ง สปป. ลาว และนาย Yi Gang ผู้ว่าการ ธนาคารประชาชนจีน
ร่วมลงนามในความตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่นระหว่างธนาคารแห่ง สปป. ลาวกับ
ธนาคารประชาชนจีน โดยมีนายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน ในช่วงการเยือนจีน อย่างเป็นทางการ
ของนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ระหว่างวันที่ 5 – 9 ม.ค. 2563

ความตกลงดังกล่าวเป็นการขยายความร่วมมือระหว่างธนาคารกลางของทั้งสองประเทศในการใช้เงินกีบและหยวน
ในการทำธุรกรรมระหว่างกัน และส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์ของทั้งสองประเทศขยายความร่วมมือและอำนวยความสะดวก
แก่ประชาชนในการแลกเปลี่ยนเงินกีบและหยวน

ปัจจุบันจีนเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่อันดับหนึ่งใน สปป. ลาว ความตกลงดังกล่าวจะเพิ่มบทบาทเงินหยวนในตลาดเงินลาว
และช่วยอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการ ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ลดความต้องการ
เงินดอลลาร์สหรัฐ และลดค่าใช้จ่ายในการแลกเปลี่ยนเงินตราแก่ผู้ประกอบการลาวและจีนเนื่องจากไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยน
เงินเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐก่อนที่จะแลกเป็นเงินสกุลกีบหรือหยวนอีกต่อไป
 
ขณะนี้ สปป. ลาวกำลังเผชิญกับปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินกีบกับเงินดอลลาร์สหรัฐและบาทผันผวนอย่างมาก
โดยเงินกีบอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ธนาคารแห่ง สปป. ลาวพยายามอย่างมากที่จะรักษาอัตราแลกเปลี่ยนให้คงที่
อยู่ในระดับความผันผวนของค่าเงินกีบไม่เกินร้อยละ 5

ที่มา: เว็บไซต์ธนาคารแห่ง สปป. ลาว วันที่ 9 ม.ค. 2563
https://www.bol.gov.la/fileupload/09-01-2020_1578535487.pdf
และ นสพ. Vientiane Times วันที่ 13 ม.ค. 2563

ข้อสังเกต
1. จีนเป็นคู่ค้าอันดับสองของ สปป.ลาว มูลค่าการค้ามากกว่าการค้าระหว่าง สปป. ลาวกับสหรัฐอเมริกา 56 เท่า
(ช่วงเดือน ม.ค. – มิ.ย. 2562) และโดยที่ค่าเงินของประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกันและมีการค้าขายกันในปริมาณมาก
มักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน เพราะเป็นวัฏจักรทางเศรษฐกิจและการค้าที่สอดคล้องกัน ดังนั้น การค้าขาย
โดยใช้เงินสกุลหยวนและกีบ จึงจะช่วยลดความเสี่ยงของผู้ประกอบการลาวจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการแลกเปลี่ยนเงินตราแก่ผู้ประกอบการลาวด้วย
2. ในช่วงปีที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าเป็นอย่างมากทำให้ผู้บริโภคลาวหันไปใช้สินค้าจีนมากขึ้น การอำนวยความสะดวก
จากความตกลงดังกล่าวน่าจะยิ่งทำให้สินค้าจีนมีราคาถูกลงและเสถียรภาพมากขึ้นและมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดลาว
มากยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ จีนพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำ
สามารถขายสินค้าได้ในราคาถูกและสินค้าบางชนิดมีคุณภาพเทียบเท่าสินค้าไทย การค้าอิเล็กทรอนิกส์ของจีนในลาว
มีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น อาทิ การชำระสินค้าและค่าบริการผ่าน Wechat pay และ Alipay ช่วยให้คนลาว
เข้าถึงสินค้าจีนมากขึ้น จึงอาจทำให้ไทยสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดในสินค้าบางชนิด อย่างไรก็ตาม สินค้าเวชสำอาง
และเพื่อสุขภาพของไทยยังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคของ สปป. ลาว ทั้งนี้ ในช่วงเดือน ม.ค. – พ.ย. 2562
การค้าจีน - ลาวมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่การค้าไทย - ลาวมูลค่าลดลงร้อยละ 8.04

01/17/2020



กลับหน้าหลัก