เกาะติดข่าว

ภาคเอกชนเสนอให้รัฐบาล สปป. ลาวออกนโยบายเลื่อนชำระเงินกู้ธนาคารในช่วงโควิด 19

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2564 ดร. สอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงแผนการ และการลงทุน สปป. ลาว
ในฐานะหัวหน้าคณะเฉพาะกิจด้านเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขผลกระทบจากการระบาดของ โรคโควิด 19 เป็นประธานการประชุม
ปรึกษาหารือในการเตรียมแก้ไขผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ของคณะเฉพาะกิจด้านเศรษฐกิจฯ
โดยมีรัฐมนตรี รองรัฐมนตรี และคณะเฉพาะกิจด้านเศรษฐกิจฯ ของกระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายคอนสะหวัน ราชมุนตี รองรัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยว สปป. ลาว รายงานผลกระทบที่สื่อมวลชน
ได้ติดตามว่า การซื้อขายทั่วไปลดลง เนื่องจากร้านค้าจำนวนหนึ่งได้ปิดร้านชั่วคราวตาม แจ้งการและคำสั่งของภาครัฐ รวมทั้ง
การซื้อขายที่ตลาดสดก็มีจำนวนลดลง ประชาชนส่วนใหญ่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น อยู่บ้านมากขึ้น บางส่วนกักตุนอาหาร
เปลี่ยนพฤติกรรมไปตลาดในตอนเช้าเพื่อลดความแออัด ในขณะที่ราคาสินค้ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ และยังไม่การขาดแคลนสินค้า
ที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน

สำหรับผลกระทบด้านการท่องเที่ยว สืบเนื่องจากมาตรการปิดด่านพรมแดนและมิให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้า สปป. ลาว
ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563 เป็นต้นมา รวมทั้งการปิดสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม และร้านอาหาร ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยว
และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ โรงแรม 637 แห่ง รีสอร์ท และบ้านพัก 2,283 แห่ง บริษัทท่องเที่ยว 539 บริษัท ตัวแทนบริษัทท่องเที่ยว
36 แห่ง และพนักงานนำเที่ยวกว่า 2,000 คน

ภาคธุรกิจท่องเที่ยวได้ยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลพิจารณาให้ความช่วยเหลือ โดยเป็นข้อเสนอและข้อคิดเห็นเดิมที่เคยเสนอให้รัฐบาล
พิจารณาก่อนหน้านี้ ดังนี้
1. ขอให้รัฐบาลมีนโยบายพิเศษลดการชำระหรือเลื่อนการชำระเงินกู้ธนาคาร
2. ลดการชำระภาษีกำไรของธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งค่าไฟและค่าน้ำประปา เพื่อช่วยลดต้นทุนของภาคการท่องเที่ยว
ทำให้ธุรกิจอยู่รอด
3. สนับสนุนสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ 
4. ส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยว โดยปรับลดค่าสัมปทาน หรือยกเว้นค่าสัมปทานในช่วงนี้
เพื่อให้บริษัทท่องเที่ยวมีทุนในการพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ

ที่มา: เว็บไซต์ นสพ. เวียงจันทน์ใหม่ วันที่ 29 เม.ย. 2564 https://v2.vientianemai.net/archives/19138

05/07/2021



กลับหน้าหลัก