เกาะติดข่าว

ธนาคารแห่ง สปป. ลาวเตรียมความพร้อมให้ธนาคารพาณิชย์จัดทำรายงานการเงินตามมาตรฐานสากล

เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2564 นางวัดทะนา ดาลาลอย รองผู้ว่าธนาคารแห่ง สปป. ลาว เป็นประธานการประชุมเผยแพร่รายงานการเงิน
ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ (lnternational Financial Reporting Standards: IFRS) โดยมีผู้แทนจาก
ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศใน สปป. ลาว บริษัทตรวจสอบบัญชี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

การประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมให้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารจัดทำรายงาน
การเงินตามมาตรฐานสากลเพื่อให้สอดคล้องตามความเป็นจริง โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2564 – 2568 เพื่อให้การรายงานการเงิน
เป็นไปตามมาตรฐานสากลและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจัดทำบทวิเคราะห์ช่องโหว่ใน การรายงานมายังธนาคารแห่ง สปป. ลาว
ภายในปี 2564 และสร้างแผนเกี่ยวกับการเปลี่ยนไปสู่การดำเนินการรูปแบบใหม่ในปี 2564 รวมทั้งรายงานความคืบหน้า
การดำเนินงานตามแผนที่วางไว้เป็นรายไตรมาสมายังธนาคารแห่ง สปป. ลาว

การจัดทำรายงานการเงินตามมาตรฐานสากลจะช่วยธุรกิจสามารถดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส ปัจจุบัน
สปป. ลาวมีกฎหมายว่าด้วยการบัญชีที่กำหนดให้วิสาหกิจที่ดำเนินกิจการเพื่อสาธารณประโยชน์ต้องดำเนินการตามมาตรฐานสากล
โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน ในปี 2560 กระทรวงการเงิน สปป. ลาวออกแจ้งการเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม IFRS
โดยกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินที่มี ความพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน
ที่ยังไม่มีความพร้อมให้วางแผน เพื่อเริ่มปฏิบัติภายในปี 2564

นางวัดทะนาฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมายังมีพบข้อจำกัดในการดำเนินการหลายด้าน โดยเฉพาะความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐาน IFRS
โครงสร้างพื้นฐานด้านระบบ IT กฎระเบียบที่ยังไม่สอดคล้อง ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินไม่สามารถดำเนินการ
ได้ตามเวลาที่กำหนด ดังนั้น กระทรวงการเงินจึงออกแจ้งการขยายเวลาเพิ่มอีก 5 ปี จนถึงปี 2568 และเริ่มปฏิบัติตามมาตรฐานสากล
อย่างเต็มรูปแบบในปี 2569 เป็นต้นไป โดยธนาคารแห่ง สปป. ลาว ออกแจ้งการเกี่ยวกับการดำเนินการตามมาตรฐานสากลของภาคธนาคาร
เลขที่ 99/ทหล ลงวันที่ 14 ก.ค. 2564 และนำมาเผยแพร่ในที่ประชุมครั้งนี้ ในโอกาสนี้บริษัทตรวจสอบบัญชียังได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ
การวิเคราะห์ช่องโหว่และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการดำเนินการตาม IFRS อีกด้วย

ที่มา: นสพ. เวียงจันทน์ใหม่ วันที่ 30 ก.ค. 2564

08/06/2021



กลับหน้าหลัก