กฎระเบียบที่ควรรู้

สถานการณ์การนำเข้าและส่งออกของ สปป. ลาวในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564

ศูนย์ข้อมูลข่าวสารทางด้านการค้าของ สปป. ลาว กรมการนำเข้าและส่งออก กระทรวงอุตสาหกรรม และการค้า สปป. ลาว
รายงานว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564 สปป. ลาวมีมูลค่าการนำเข้าและส่งออก ประมาณ 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ประกอบด้วยการส่งออก 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย สปป. ลาวได้ดุลการค้า
ประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สปป. ลาวมีประเทศคู่ค้ากว่า 19 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศคู่ค้าหลักที่มีชายแดนติดกัน
และมีมูลค่าการนำเข้าและส่งออกมากที่สุด คือ ไทย จีน และเวียดนาม

ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564 สินค้าส่งออกที่สำคัญของ สปป. ลาว ได้แก่ ทองผสมและทองแท่ง 268 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
มันสำปะหลัง 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และแร่ทองแดง 124 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยส่งออก ไปยังจีนมูลค่าประมาณ 657
ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ส่งออกแร่ทองแดงมากที่สุด 124 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) รองลงมา คือ เวียดนาม 337 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(ส่งออกโคและกระบือมากที่สุด 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และไทย 296 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ส่งออกมันสำปะหลังมากที่สุด 150
ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

สินค้านำเข้าที่สำคัญของ สปป. ลาว ได้แก่ ยานพาหนะ (ไม่รวมรถไถนาและรถจักรยานยนต์) 121 ล้านดอลลาร์สหรัฐ น้ำมันดีเซล
119 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเครื่องจักรกล (ไม่รวมเครื่องยนต์) 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนำเข้าจากไทยมูลค่าประมาณ 795
ล้านดอลลาร์สหรัฐ (นำเข้าน้ำมันดีเซลมากที่สุด 112 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) รองลงมาคือ จีน 309 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (นำเข้าเหล็ก
และอุปกรณ์ที่ทำจากเหล็ก และเหล็กกล้ามากที่สุด 39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และเวียดนาม 143 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (นำเข้าเหล็ก
และอุปกรณ์ที่ทำจากเหล็ก และเหล็กกล้า มากที่สุด 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ที่มา: เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลข่าวสารทางด้านการค้าของ สปป. ลาว กรมการนำเข้าและส่งออก กระทรวงอุตสาหกรรม
และการค้า สปป. ลาว วันที่ 8 มิ.ย. 2564
https://www.laotradeportal.gov.la/index.php?r=site/display&id=2302

ข้อมูลเพิ่มเติม
มูลค่าการนำเข้าและส่งออกในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564 เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน ของปีที่ผ่านมา
โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.3 และการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.14 ประเทศที่ สปป. ลาวส่งออกหลัก มีการเปลี่ยนแปลงจากไทย
จีน และเวียดนาม เป็นจีน เวียดนาม และไทย และประเทศนำเข้าหลักยังคงอันดับเดิม คือ ไทย จีน และเวียดนาม

06/11/2021



กลับหน้าหลัก