ธุรกิจไทยที่มีศักยภาพ

สปป. ลาวพัฒนาระบบชำระเงินให้มีความทันสมัย

นายสุลิสัก ทำมะวง หัวหน้ากรมคุ้มครองระบบชำระเงิน ธนาคารแห่ง สปป. ลาว กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นยุคที่โลกขับเคลื่อน
ด้วยเทคโนโลยี อุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ สามารถเชื่อมโยงและทำงานร่วมกันได้โดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะด้านการเงิน
และการธนาคารที่ใช้เทคโนโลยีทางการเงิน FinTech ธุรกิจ Startup ในหลายประเทศได้เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ
โดยใช้นวัตกรรมในการต่อยอดธุรกิจบนพื้นฐานการแข่งขันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยก้าวไปสู่ระบบ 
High Value Service เพื่อความมั่นคงทางธุรกิจ 

ส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบสถาบันการเงินและเงินตราของ สปป. ลาวในระยะ 10 ปี (2559 – 2568) 
และวิสัยทัศน์ปี 2573 ได้เน้นการพัฒนาระบบชำระเงินของประเทศให้เป็นศูนย์กลางการชำระเงินที่ทันสมัย ปลอดภัย 
โดยสร้างระบบที่มีลักษณะรวมศูนย์ ทั่วถึง รองรับธุรกรรมที่หลากหลาย ปลอดภัย รวดเร็วสนับสนุนการชำระเป็น
สกุลเงินกีบมากขึ้น ควบคุมเงินตราต่างประเทศ และเชื่อมโยงตู้ ATM ของทุกธนาคาร 

ธนาคารแห่ง สปป. ลาวจึงได้พัฒนาระบบชำระเงินในประเทศและระหว่างประเทศผ่านระบบ Systemically Important 
Payment Systems (SIPS) ซึ่งธนาคารแห่ง สปป. ลาวจะเป็นผู้ควบคุมระบบดังกล่าว ประกอบด้วยระบบการชำระเงิน
แบบทันทีและศูนย์ชำระเช็ค สำหรับการทำธุรกรรมเล็ก ๆ บริษัท Lao National Payment Network (LAPNet) 
จะเป็นผู้ควบคุมระบบ โดยจะมีบริการใช้บัตร ATM ของธนาคารต่าง ๆ ร่วมกัน (Lao ATM Pool Switching: LAPS) 
ในการตรวจสอบยอดเงินและถอนเงินสดข้ามธนาคารผ่านตู้ ATM (คาดว่าจะเปิดให้บริการในสิ้นปี 2562) ปัจจุบันบริษัท 
LAPNet มีธนาคารที่เป็นสมาชิกจำนวน 12 แห่ง 

สถิติเดือน ก.ค. 2562 พบว่า มีเครื่องรับบัตร Point of Sale System (POS) 3,986 เครื่อง ตู้ ATM 1,277 แห่ง บัตร ATM 
1,518,497 ใบ การให้บริการชำระแบบที่ไม่ใช้เงินสด ประกอบด้วยธนาคารผู้ให้บริการบัตร ATM 24 แห่ง ธนาคารผู้ให้บริการ 
Mobile Banking 12 แห่ง และ E-Money/E-Wallet 4 แห่ง (ธนาคารพาณิชย์ 2 แห่ง สถาบันการเงินจุลภาค 1 แห่ง และ
นิติบุคคล 1 แห่ง) ธนาคารผู้ให้บริการชำระผ่านเครื่อง POS 8 แห่ง ผ่าน Alipay 3 แห่ง และผ่าน WeChat Pay 1 แห่ง 
สำหรับระบบชำระเงินระหว่างประเทศมีผู้ให้บริการโอนเงินผ่านระบบ SWIFT 31 แห่ง ผ่าน MoneyGram และ Western Union 
15 แห่ง (ธนาคาร 12 แห่ง และนิติบุคคล 3 แห่ง) การให้บริการชำระเงินระหว่างประเทศผ่าน QR Code ระหว่าง สปป. ลาว
กับไทย (ธนาคารการค้าต่างประเทศและธนาคารธนชาต) และการโอนเงินระหว่าง สปป. ลาวกับไทยโดยใช้เทคโนโลยี 
Blockchain ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา 

ที่มา: เว็บไซต์ นสพ. ลาวพัฒนา วันที่ 5 ธ.ค. 2562 
https://www.laophattananews.com/archives/61453 

ข้อมูลเพิ่มเติม 
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2562 ธนาคารแห่ง สปป. ลาวและธนาคารพาณิชย์ใน สปป. ลาว 7 แห่งได้ร่วมก่อตั้งบริษัท Lao National 
Payment Network (LAPNet) เพื่อพัฒนาระบบชำระระหว่างธนาคารพาณิชย์ใน สปป. ลาว ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถใช้บัตรเครดิต
ทำธุรกรรมผ่านตู้ ATM รวมถึงการฝาก ถอน และโอนเงินผ่านตู้อัตโนมัติ ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ระบบสถาบันการเงิน
และเงินตราของ สปป. ลาว (2559 – 2567) และต่อมาเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2562 ธนาคารผู้ก่อตั้งบริษัทดังกล่าวได้จัดพิธีเปิดตัวบริษัท
และเปิดตัวผลิตภัณฑ์การโอนเงินข้ามธนาคารอย่างเป็นทางการ

12/19/2019



กลับหน้าหลัก