ธุรกิจไทยที่มีศักยภาพ
ธนาคารแห่ง สปป. ลาวออกนโยบายช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2563 ผู้ว่าการธนาคารแห่ง สปป. ลาว ได้ออกข้อตกลงว่าด้วยนโยบายสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือ ผู้ที่ได้ผลกระทบ
จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน และธนาคารพาณิชย์
และสถาบันการเงินภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่ง สปป. ลาว ให้สามารถดำเนินธุรกิจ ได้อย่างต่อเนื่อง ดังนี้
1. ธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินสามารถเลื่อนเวลาชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ปรับลดอัตราดอกเบี้ยและ
ค่าธรรมเนียมให้แก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคดังกล่าว ตามความเหมาะสม และปรับวงเงินกู้ใหม่
แก่ลูกหนี้ เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว การเกษตรเพื่อการส่งออก การผลิตทดแทนการนำเข้า SMEs ต่าง ๆ
2. ธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินสามารถพิจารณาใช้มาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ให้ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ
ตามความเหมาะสมเป็นรายกรณี และสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของลูกหนี้และผู้ที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้
2.1 พิจารณาอนุมัติเงินกู้ใหม่แก่ลูกหนี้และผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อฟื้นฟูการผลิตและเสริมสภาพคล่อง
2.2 ปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ให้แก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ โดยกำหนดอายุสัญญา หรืองวดชำระเงินต้น และดอกเบี้ย
และอัตราดอกเบี้ยใหม่ให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ โดยให้มีระยะเวลาปลอดหนี้เงินต้น
และดอกเบี้ยเป็นเวลา 1 ปี หรือตามการตกลงระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้
3. กรมคุ้มครองธนาคารพาณิชย์และกรมคุ้มครองสถาบันการเงินมีหน้าที่ติดตามและตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรการ
ที่กำหนดและรายงานผลให้ผู้บริหารธนาคารแห่ง สปป. ลาวทราบ ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงิน
มีหน้าที่สำรวจ และเก็บข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อนำมาประเมินผลกระทบก่อนดำเนินการปรับสัญญาและอนุมัติสินเชื่อเพิ่มเติม
พร้อมทั้งต้องรายงานผลการปรับสินเชื่อดังกล่าวให้ธนาคารแห่ง สปป. ลาวทราบภายในวันที่ 10 ของทุกเดือน
ข้อมูลเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2563 ธนาคารแห่ง สปป. ลาวได้ประกาศลดอัตราเงินฝากประจำสกุลเงินกีบจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 4
และสกุลเงินต่างประเทศจากร้อยละ 10 เหลือร้อยละ 8 เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์มีแหล่งทุนขยายสินเชื่อและสามารถช่วยเหลือ
ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ที่มา: เว็บไซต์วารสาร Target วันที่ 27 มี.ค. 2563
https://www.targetlaos.com/article/48837
04/03/2020
กลับหน้าหลัก