ธุรกิจไทยที่มีศักยภาพ

มูลค่าการนำเข้า – ส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563

ศูนย์ข้อมูลข่าวสารทางด้านการค้าของ สปป. ลาว กรมการนำเข้าและส่งออก กระทรวงอุตสาหกรรม และการค้า สปป. ลาว
รายงานว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 สปป. ลาวมีมูลค่าการนำเข้าและส่งออกสินค้า 4,461 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ประกอบด้วยการส่งออก 1,954 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้า 2,506 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย สปป. ลาวขาดดุลการค้า
ประมาณ 552 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกดังกล่าวไม่รวมมูลค่า การส่งออกไฟฟ้า

ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 สินค้าส่งออกสำคัญของ สปป. ลาว ได้แก่ ทอง 211 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทองแดงและผลิตภัณฑ์
จากทองแดง 157 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มันสำปะหลัง 154 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เยื่อไม้และเศษกระดาษ 149 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
วัวและกระบือ 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เครื่องดื่ม (น้ำ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง) 109 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กล้วย 106 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทองผสมและทองแท่ง 91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เครื่องนุ่งห่ม 89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และผลไม้ (แตงโม มะขาม มะม่วง) 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยส่งออกไปยังจีนมูลค่าประมาณ 629 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทย 505 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเวียดนาม 489 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ

สินค้านำเข้าที่สำคัญของ สปป. ลาว ประกอบด้วยเครื่องจักรกล (ไม่รวมเครื่องยนต์) 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐ น้ำมันดีเซล 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
เหล็กและอุปกรณ์ที่ทำจากเหล็กและเหล็กกล้า 165 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัตว์มีชีวิต 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยานพาหนะ (ไม่รวมรถไถนา
และรถจักรยานยนต์) 156 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เครื่องดื่ม (น้ำ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง) 117 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เครื่องใช้ไฟฟ้าและ
อุปกรณ์ไฟฟ้า 102 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ของใช้ที่ทำจากพลาสติก 84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อะไหล่รถ (รวมทั้งยางรถ) 64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
และเหล็กเส้นและเหล็กรูปพรรณต่าง ๆ 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนำเข้าจากไทยมูลค่าประมาณ 1,414 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จีน 550 ล้าน
ดอลลาร์สหรัฐ และเวียดนาม 263 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ

ที่มา: นสพ. เศรษฐกิจการค้า วันที่ 29 ก.ค. 2563

ข้อมูลเพิ่มเติม
มูลค่าการนำเข้าและส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 ลดลงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยการส่งออกลดลง
ร้อยละ 31.41 และการนำเข้าลดลงร้อยละ 8.07 และมีการเปลี่ยนแปลงอันดับประเทศส่งออกหลัก คือ จีน ไทย และเวียดนามตามลำดับ
และประเทศนำเข้าหลักยังคงอันดับเดิม คือ ไทย จีน และเวียดนามตามลำดับ

08/06/2020



กลับหน้าหลัก