สปป. ลาวกำหนดนโยบายลดผลกระทบจากโควิด 19 ต่อเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2564 นางพอนวัน อุทะวง รองรัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุน สปป. ลาว ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับ
ผลการประชุมเกี่ยวกับมาตรการลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจของคณะเฉพาะกิจด้านเศรษฐกิจ เพื่อแก้ไขผลกระทบจากการระบาด
ของโรคโควิด 19 สรุปได้ ดังนี้
1. กระทรวงแผนการฯ และหน่วยงานที่ดูแลเศรษฐกิจมหภาค- ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินผลกระทบ
จากการระบาดระลอกใหม่ต่อเศรษฐกิจและคาดการณ์เศรษฐกิจมหภาค ปี 2564
2. หน่วยงานด้านการเงิน- ค้นคว้าและเตรียมการออกนโยบายผ่อนผันด้านงบประมาณ โดยเฉพาะ การยกเว้นการเก็บภาษีเงินได้
สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย เลื่อนชำระภาษีอากร ยกเว้นค่าปรับและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ รวมทั้งยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าที่ใช้สำหรับป้องกัน
และสกัดกั้นโรคโควิด 19 ตลอดจนเสนอมาตรการระงับและ ลดรายจ่ายด้านการบริหารเพื่อผ่อนคลายการขาดดุลงบประมาณ
3. หน่วยงานด้านการคลัง- ธนาคารแห่ง สปป. ลาว จะสานต่อนโยบายผ่อนผันด้านสินเชื่อให้ภาคเอกชน ที่ได้รับผลกระทบ และจะสนับสนุน
แหล่งทุนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ สานต่อการสนับสนุนสินเชื่อให้ภาคการผลิตและแปรรูปสินค้าเกษตร รวมทั้งสนับสนุนสินเชื่อให้ธุรกิจ SMEs
การผลิตเพื่อส่งออก การผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าสินค้าที่มีความสำคัญลำดับต้น
4. หน่วยงานด้านการผลิตและการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการขนส่ง- ดำเนินการแก้ไข ความยุ่งยากในการบริหารจัดการและ
ตรวจสอบสินค้าในตลาด การสนองสินค้าอุปโภคและบริโภคให้เพียงพอ ต่อความต้องการ และการอำนวยความสะดวกการนำเข้า
และส่งออกสินค้า
5. หน่วยงานด้านแรงงานและสวัสดิการสังคม- ได้ศึกษานโยบายช่วยเหลือแรงงานในระบบประกันสังคม โดยจะพิจารณาเลื่อน
หรือระงับการส่งเงินเข้ากองทุนประกันสังคมชั่วคราวให้กับแรงงานที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งสำรวจข้อมูลแรงงานนอกระบบประกันสังคม
ที่ได้รับผลกระทบ และกำหนดมาตรการช่วยเหลือในรูปแบบ การอุดหนุนประเภทต่าง ๆ และให้ผู้ว่างงานเข้าสู่ระบบการจ้างงาน
6. หน่วยงานด้านช่วยเหลือสังคม- ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาและกำหนดนโยบายภาคสังคม และประชาชน เช่น การลดค่าไฟฟ้า
สำหรับที่อยู่อาศัยร้อยละ 3 และลดค่าน้ำประปาร้อยละ 5 ในช่วงเดือน พ.ค. -ก.ค. 2564 รวมทั้งค่าโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต ค่าเก็บขยะ
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะค้นคว้ามาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วง 1 ปีข้างหน้า รวมทั้งมาตรการระยะกลางและระยะยาวต่อไป
ที่มา: นสพ. ประเทศลาว วันที่ 13 พ.ค. 2564
05/21/2021