เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2564 รัฐบาล สปป. ลาวได้ออกมติว่าด้วยการรับรองและการประกาศใช้นโยบาย การใช้รถไฟฟ้าใน สปป. ลาว เพื่อดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการคลัง โดยเฉพาะมาตรการประหยัด ลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศเพื่อลดการรั่วไหลของเงินตราต่างประเทศ ลดค่าใช้จ่ายของผู้ใช้ยานพาหนะและการก่อมลพิษจากรถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่ง สปป. ลาวมีศักยภาพในการผลิต โดยตั้งเป้าจำนวนการใช้รถไฟฟ้าคิดเป็นร้อยละ 1 ของผู้ใช้ยานพาหนะภายใน ปี 2568 และร้อยละ 30 ภายในปี 2573 มติดังกล่าวสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ธนาคารโลกได้จัดทำรายงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกฉบับเดือน ต.ค. 2564 โดยปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของ สปป. ลาวปี 2564 จากที่คาดการณ์ในเดือน เม.ย. 2564 ไว้ที่ร้อยละ 4 เป็นร้อยละ 2.2 และคาดว่าในปี 2565 เศรษฐกิจ สปป. ลาวจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.5
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารทางด้านการค้าของ สปป. ลาว กรมการนำเข้าและส่งออก กระทรวงอุตสาหกรรม และการค้า สปป. ลาว รายงานว่า เดือน ก.ย. 2564 สปป. ลาวมีมูลค่าการนำเข้าและส่งออกสินค้าประมาณ 777 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบด้วยมูลค่าการส่งออกประมาณ 447 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าการนำเข้าประมาณ 330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย สปป. ลาวได้ดุลการค้าประมาณ 117 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ มูลค่า การนำเข้า และส่งออกดังกล่าวไม่รวมมูลค่าการส่งออกไฟฟ้า
ท่ามกลางความท้าทายของสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและความผันผวนทั้งในและนอกภูมิภาค รวมทั้ง การระบาดของโควิด 19 ธนาคารการค้าต่างประเทศลาว มหาชน (BCEL) จึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งศึกษาวิธีการแก้ไขและกำหนดทิศทางการดำเนินงานของภาคธนาคารในอนาคต โดยที่ผ่านมามีผลการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้
กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป. ลาว อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรโดยรถไฟลาว - จีนที่จะเปิดให้บริการในเดือน ธ.ค. นี้ โดยจะปรับปรุงคุณภาพการผลิตพืชผลทางการเกษตรและเจรจากับตลาดส่งออก โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างแนะนำให้ภาคการเกษตรปรับปรุงคุณภาพและผลผลิต
ของพืชผล 9 ชนิด สืบเนื่องจากการลงนามข้อตกลงส่งออกสินค้าเกษตรไปจีนระหว่างบริษัท AIDC จำกัด ของ
สปป. ลาว กับบริษัท Zhengzhou City Grain and Oil Industry มณฑลเหอหนาน และบริษัท China Oil
and Foodstuffs Corporation (COFCO) เมื่อเดือน พ.ค. 2564 โดยรายการสินค้าภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ประกอบด้วยถั่วลิสง 100,000 ตัน มันสำปะหลัง 100,000 ตัน เนื้อแห้งและแช่แข็ง 100,000 ตัน เม็ดมะม่วง
หิมพานต์ 200,000 ตัน ทุเรียน 50,000 ตัน กล้วย 100,000 ตัน มะม่วง 100,000 ตัน ถั่วเหลือง 200,000 ตัน
และน้ำตาล 500,000 ตัน ซึ่งจะจำหน่ายให้กับจีนเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2564 - 2569 มูลค่ารวม 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2564 นายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว กล่าวในโอกาสพบสื่อมวลชน
ทั่วประเทศผ่านระบบทางไกล ณ ห้องว่าการสำนักงานนายกรัฐมนตรีว่า ทางรถไฟลาว - จีนจะเปิดใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 2 ธ.ค. นี้อย่างแน่นอน ซึ่งตรงกับวันเฉลิมฉลองวันสถาปนา สปป. ลาวครบรอบ 46 ปี โดยรัฐบาลกำลังจัดทำแผนการเปิดเดินรถไฟภายใต้เงื่อนไขที่สอดคล้องกับมาตรการควบคุมโรคโควิด 19
เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2564 นายกรัฐมนตรี สปป. ลาวได้ออกคำสั่งเลขที่ 18/นย. ว่าด้วยการเพิ่มทวี การคุ้มครองและป้องกันการรั่วไหลของรายได้ภาครัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ 1. ให้กระทรวง องค์การรัฐเทียบเท่ากระทรวง คณะกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนส่วนกลาง และส่วนท้องถิ่น ฝ่ายบริหารงบประมาณ และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับตระหนักถึงความรับผิดชอบ ต่อหน้าที่ และขอบเขตของตนในการปฏิบัติตามกฎหมายและนิติกรรมเกี่ยวกับการคุ้มครองและป้องกันการรั่วไหล ของรายได้ของรัฐ ยุติ หรือยกเลิกนิติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ในการคุ้มครองรายได้ของรัฐบาล
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2564 สปป. ลาวและจีนได้เริ่มก่อสร้างวิทยาลัยเทคนิควิชาชีพการทางรถไฟแห่งแรก
ใน สปป. ลาว ตั้งอยู่บ้านโพนคำ เมืองไซทานี นครหลวงเวียงจันทน์ บนพื้นที่ทั้งหมด 14 เฮกตาร์ (เนื้อที่การก่อสร้างประมาณ 3.3 เฮกตาร์ ประกอบด้วย อาคารเรียน หอพัก อาคารสำหรับฝึกอบรมภาคปฏิบัติจริง ห้องสมุด ศูนย์กีฬา และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ) คาดว่าจะใช้ระยะเวลาการก่อสร้าง 32 เดือน การก่อสร้างมีมูลค่า 400 ล้านหยวน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือในการออกแบบและก่อสร้างโดยบริษัท Yunnan Construction and Investment Holding จำกัด และบริษัท Yunnan Design Institute จำกัด
กระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง สปป. ลาวและกระทรวงคมนาคมและการขนส่งเวียดนามอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการทางด่วนเวียงจันทน์ - ฮานอย โดยความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น โดยอยู่ระหว่างพิจารณา 2 เส้นทาง ได้แก่ (1) เส้นทางนครหลวงเวียงจันทน์ - ปากซัน - เวียงทอง - แท็งทุย (Thanh Thuy) - ฮานอย ระยะทาง 725 กิโลเมตร โดย 355 กิโลเมตรอยู่ใน สปป. ลาว มูลค่าการก่อสร้าง 5,230 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ (2) เส้นทางนครหลวงเวียงจันทน์ - นาแพง แขวงไซสมบูน - เซียงขวาง - ท่าลาว แขวงหัวพัน - ฮานอย ระยะทาง 730 กิโลเมตร โดย 485 กิโลเมตรอยู่ในฝั่งลาว มูลค่าการก่อสร้างประมาณ 9,270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2564 นายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ได้ออกคำสั่งเลขที่ 18/นย. ว่าด้วยการเพิ่มการคุ้มครองและป้องกันการรั่วไหลของรายรับงบประมาณแห่งรัฐ โดยสั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ เพิ่มความรับผิดชอบในการเสริมสร้างการจัดการในด้านต่าง ๆ เพื่อป้องกันการรั่วไหลของรายรับและเพิ่มรายรับให้กับงบประมาณของรัฐให้มากที่สุด