สปป. ลาวมีแผนส่งข้าวขัดสี 2,000 ตันไปยังจีนในเดือน ม.ค. 2564 หลังจากส่งไปแล้ว 19,000 ตัน โดยการส่งออกดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงโควต้าการส่งออกข้าว 50,000 ตัน ระหว่างรัฐบาลลาวกับจีน โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป. ลาวระบุว่า จะส่งออกข้าวไปจีนมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทั้งหมดภายในปี 2564 อย่างไรก็ตาม การส่งออกข้าวไปจีนยังคงเป็นไปตามตามแผนที่วางไว้แม้จะเผชิญกับความท้าทาย จากการระบาดของโรคโควิด 19
โครงการก่อสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว หลังจากมีการลงนามข้อตกลงการก่อสร้างเมื่อปลายเดือน ธ.ค. 2563 โดยโครงการฯ มีมูลค่าการก่อสร้างรวมประมาณ 3.9 พันล้านบาท สปป. ลาวซึ่งได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจ กับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) จะรับผิดชอบ 1.38 พันล้านบาท ใช้เวลาสร้าง 36 เดือน
ดร. สะถาบันดิด อินสีเชียงใหม่ รักษาการหัวหน้าสถาบันค้นคว้าเศรษฐกิจแห่งชาติ สปป. ลาว กล่าวว่า โครงการก่อสร้างทางรถไฟลาว – จีน และทางด่วนเวียงจันทน์ – บ่อเต็น นับเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่ม
หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาล สปป. ลาวในการเปลี่ยนจากประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลให้สามารถเชื่อมโยงทางบกกับภูมิภาคได้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกรูปแบบเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงจำนวนหนึ่งและการสูญเสียผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ซึ่งเส้นทางรถไฟและทางด่วนอาจจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจ สปป. ลาว และจะทำอย่างไรเพื่อให้ได้ประโยชน์จากทางรถไฟลาว – จีน และทางด่วนเวียงจันทน์ – บ่อเต็นมากที่สุด โดยสรุปประโยชน์ของเส้นทางดังกล่าวมีดังนี้
ปี 2564 เป็นปีเริ่มต้นของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนงบประมาณแห่งรัฐ 5 ปี ครั้งที่ 9 (2564 -2568) ของ สปป. ลาว ซึ่งปัจจุบัน สปป. ลาว ยังอยู่ในช่วงที่สภาพเศรษฐกิจและการเงินยังมีความยุ่งยากหลายประการ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา ดังนั้น การคาดการณ์แผนรายรับงบประมาณแห่งรัฐ ประจำปี 2564 จึงเป็นแผนที่มุ่งเน้นการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย ที่ไม่จำเป็น เพื่อรักษาสภาพการขาดดุลงบประมาณไม่ให้เกินร้อยละ 3 ของ GDP โดยการคาดการณ์ด้านเศรษฐกิจมหภาคในปี 2564 ตามการคาดคะเนเบื้องต้นของกระทรวงแผนการและการลงทุน ดังนี้
ปัจจุบันรัฐบาล สปป. ลาวให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรแบบยั่งยืน เพื่อสร้างรายได้ ให้ประชาชนและประเทศชาติ นางกิ่งแก้ว จันทะลังสี ผู้อำนวยการบริษัท บอลิคำไซ การฟาร์มพัฒนา ส่งเสริม กสิกรรม จำกัด กล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมามีสินค้าต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามาใน สปป. ลาวเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการแข่งขันค่อนข้างสูง ตนจึงตัดสินใจทำธุรกิจผลิตสินค้าเกษตรตามแนวทางการส่งเสริมของพรรค และรัฐบาล สปป. ลาว เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน
เมื่อวันที่ 15 – 17 ธ.ค. 2563 สถาบันนิเวศน์วิทยาและเทคโนโลยีชีวภาพ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สปป. ลาว บริษัท สองมือนาง จำกัด และมหาวิทยาลัย Xuzhou จีน ได้จัดงานสัมมนาด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการเลี้ยงไหมในโครงการร่วมมือพัฒนาการเลี้ยงไหมให้เป็นอุตสาหกรรมและมีความทันสมัย โดยมี นางแก้วสายใจ ไซยะสอน ประธานบริษัท สองมือนางฯ ศ.ดร. บ่อเวียงคำ วงดาลา รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และนาย Huang Xing รองอธิการบดี มหาวิทยาลัย Xuzhou เป็นประธานร่วม ซึ่งนายกิแก้ว ไขคำพิทูน รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรม สปป. ลาว และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2563 นางวันพอน พมมะสอน หัวหน้าคลังเงินแห่งชาติ กระทรวงการเงิน สปป. ลาว และนาย Luu Manh Ha ผู้อำนวยการใหญ่บริษัท Star Telecom จำกัด และบริษัท Star Fintech จำกัดผู้เดียว ได้ลงนามความตกลงว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเดือนและเงินอุดหนุนให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐของ สปป. ลาวผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ U-Money โดยมีนางลำมอน สิมมะไลวง รองหัวหน้ากรมคุ้มครองระบบชำระสะสาง ธนาคารแห่ง สปป. ลาว และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2563 นาย Wang Zhu Gang หัวหน้าฝ่ายเทคนิค บริษัท Beijing Uni-Construction Group จำกัด ผู้รับเหมาดำเนินโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลมะโหสดให้สัมภาษณ์ว่า โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลมะโหสดเป็นหนึ่งโครงการที่เป็นเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลจีน โดยมีผู้นำทั้งสองประเทศได้ร่วมวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2560 โรงพยาบาลมะโหสดเป็นโรงพยาบาลขนาด 600 เตียง มีมูลค่าการก่อสร้าง 592 ล้านหยวน (ประมาณ 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) บนพื้นที่ก่อสร้าง 30,300 ตารางเมตร และพื้นที่ใช้สอย 54,792 ตารางเมตร
เขตพัฒนากวมรวมไซเสดถาเป็น 1 ใน 12 เขตเศรษฐกิจใน สปป. ลาว และเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาล สปป. ลาวกับจีนระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์กับกลุ่มบริษัท China Yunnan Construction and Investment Holding บนเนื้อที่ทั้งหมด 1,149 เฮกตาร์ แผนการลงทุนมีมูลค่าทั้งหมด 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และนับเป็นเขตเศรษฐกิจการค้าต่างประเทศของจีนแห่งเดียวใน สปป. ลาว ปัจจุบันมีการลงทุนในโครงการดังกล่าวแล้ว 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีเงินลงทุนสะสมในระบบจำนวน 670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สามารถสร้างมูลค่า การผลิตประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2573
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2563 นายสมจิด อินทะมิด รองรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป. ลาว ในฐานะประธานสภาบริหารกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นประธานการประชุมสมัยสามัญครั้งที่ 5 ของสภาบริหารฯ โดยมีสมาชิกสภาบริหารฯ เข้าร่วม